วิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นคืออะไร

เราคงเคยได้ยินวิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนกันมานานแล้ว แต่จริง ๆ แล้วคุณสมบัติน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สามารถลดความอ้วนได้จริงหรือไม่ เรามาลองรู้จักน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นให้มากขึ้นกันเลย

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Cold-Pressed Coconut Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากเนื้อมะพร้าวสดโดยใไม่ใช้ความร้อนสูงในกระบวนการสกัด หรือที่เรียกว่าวิธีการสกัดเย็น ซึ่งการสกัดแบบนี้จะช่วยรักษาสารอาหารและคุณสมบัติที่ดีของน้ำมันมะพร้าวไว้ได้มากที่สุด

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นประกอบด้วยสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ดังนี้

  1. กรดลอริก (Lauric Acid): เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดปานกลาง มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
  2. กรดไขมันสายยาวปานกลาง (Medium Chain Fatty Acids, MCFAs): เช่น กรดคาปริลิก (Caprylic Acid) และกรดคาปริก (Capric Acid) ซึ่งกรดไขมันสายยาวปานกลางนี้ ร่างกายจะสามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดตรงไปสู่ตับโดยตรง ทำให้สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องอาศัยน้ำดีจากตับอ่อนมาช่วยย่อย จึงถูกสะสมในเนื้อเยื่อไขมันได้น้อยกว่ากรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลยาว ซึ่งอาจช่วยในการลดน้ำหนักได้
  3. วิตามินอี (Vitamin E): มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณและเส้นผม
  4. โพลีฟีนอล (Polyphenols): ซึ่งเป็นกลุ่มของสารพฤกษเคมี ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) และมีส่วนช่วยควบคุมการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  5. ประโยชน์ด้านอื่น ๆ

    1. ใช้ในการทำอาหาร: สามารถใช้แทนน้ำมันปรุงอาหารหรือใช้ทำ อาหารคลีนได้ เพราะทนต่อความร้อนสูงและมีรสชาติที่ดี
    2. ใช้ในการดูแลช่องปาก: การทำ Oil Pulling ด้วยน้ำมันมะพร้าวช่วยลดแบคทีเรียในปาก ดีต่อสุขภาพเหงือกและฟันสารต้านจุลชีพ (Antimicrobial Substances): ช่วยป้องกันและรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อจุลชีพต่าง ๆ เช่น โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย

      หลายคนอาจสงสัยว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นช่วยอะไร? จากข้อมูลนั้นพบว่าประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีหลายประการด้วยกันทั้งในด้านสุขภาพและความงาม ดังนี้

      ประโยชน์ด้านสุขภาพ

      1. เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน: มีกรดลอริกซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
      2. ช่วยในการลดน้ำหนัก: กรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acids, MCFAs) ซึ่งเป็นกลุ่มของไขมันที่ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็วทำให้เกิดการสะสมได้น้อย
      3. ช่วยในการย่อยอาหาร: ช่วยในการดูดซึมสารอาหารประเภทไขมัน ช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในน้ำมัน และบรรเทาอาการท้องผูก
      4. ลดการอักเสบ: มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง

      ประโยชน์ด้านความงาม

      1. บำรุงผิว: ใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือสารให้ความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ลดอาการผิวแห้งและลอกเป็นขุย
      2. บำรุงเส้นผม: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ลดการแตกปลายและการขาดหลุดร่วง
      3. ลดรอยเหี่ยวย่นและรอยแผลเป็น: วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและรอยแผลเป็น
      4. ป้องกันการเกิดสิว: มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว

      กินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดน้ำหนักได้จริงไหม

      น้ำมันมะพร้าวลดความอ้วนได้จริงไหม ? น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้ แต่ไม่ได้ทำให้ลดน้ำหนักได้ทันที การลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพต้องมาจากการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสมด้วย สาเหตุที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีสรรพคุณลดความอ้วนได้ เนื่องจาก

      1. กรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acids, MCFAs):
        • น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันสายกลาง เช่น กรดคาปริลิกและกรดคาปริก ที่ย่อยง่ายและสามารถถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานได้เร็ว ทำให้ไม่สะสมในร่างกายเป็นไขมัน
        • การบริโภคกรดไขมันสายกลางสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolic Rate) ของร่างกาย
      2. เพิ่มความอิ่ม (Satiety):
        • การบริโภคน้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยเพิ่มความอิ่มและลดความอยากอาหาร
      3. เพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมัน (Fat Burning):
        • กรดไขมันสายกลางในน้ำมันมะพร้าวที่ร่างกายสามารถนำมาใช้ได้ทันที

       

      อย่างไรก็ตามวิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนนั้นจำเป็นที่จะต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารอย่างอื่น และการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันให้เหมาะสม เพื่อทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

       

      วิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนสามารถทำได้ดังนี้

      1. เริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย:
        • เริ่มต้นด้วยการกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนชา (ประมาณ 5 มิลลิลิตร) ต่อวัน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณจนถึง 1-2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 15-30 มิลลิลิตร) ต่อวัน
      2. ใช้แทนน้ำมันปรุงอาหาร:
        • ใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันพืชหรือน้ำมันมะกอกในการทำอาหาร เช่น การผัด การทอด หรือการอบ
        • น้ำมันมะพร้าวสามารถทนต่อความร้อนได้ดี ไม่เกิดการออกซิเดชันง่ายเมื่อถูกความร้อน
      3. ใช้ในการทำขนมและอาหารคาว:
        • ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนประกอบในขนมที่ไม่ต้องการการอบ หรือใช้แทนเนย

      แต่ทั้งนี้ปริมาณไขมันทั้งหมดที่ทานต่อวันไม่ควรเกินร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมดที่ควรได้รับต่อวัน

      วิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนกินตอนไหนดี?

      • ทานก่อนมื้ออาหาร:
        • ทานน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะก่อนมื้ออาหารประมาณ 20 นาที จะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและลดปริมาณการทานอาหารในมื้อนั้น
      • เพิ่มในอาหารเช้า:
        • ใส่น้ำมันมะพร้าวในอาหารเช้า เช่น โยเกิร์ตหรือข้าวโอ๊ต เพื่อเพิ่มพลังงานและช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน

      อย่าลืมเลือกน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือการเติมสารเคมี อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักนั้นควรควบคุมอาหารโดยเน้นการบริโภคผัก ผลไม้ โปรตีนจากแหล่งที่ดี และลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาล การออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

      เรื่องที่ควรรู้เมื่อกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วน

      เช็กลิสต์สิ่งที่ควรรู้ก่อนกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเพื่อลดความอ้วน จะมีอะไรบ้าง ไปอ่านพร้อม ๆ กัน

      • ทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรบริโภคน้ำมันมะพร้าวในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ได้รับพลังงานเกินความต้องการ ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณเล็กน้อย เช่น 1 ช้อนชาต่อวัน และค่อย ๆ เพิ่มเป็น 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
      • เลือกน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่มีคุณภาพดี และไม่มีการเติมสารเคมี
      • ร่างกายอาจต้องการเวลาปรับตัวกับการบริโภคน้ำมันมะพร้าว ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อยและเพิ่มขึ้นค่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืดหรือท้องเสีย
      • การบริโภคน้ำมันมะพร้าวเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรรับประทานอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
      • ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดใช้วิธีการลดความอ้วนด้วยวิธีนี้
      • หากต้องการลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ น้ำมันมะพร้าวอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะถึงแม้ว่าน้ำมันมะพร้าวทำให้ร่างกายได้รับไขมันดี (HDL-C) เพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้ร่างกายได้รับไขมันเลว (LDL-C) เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

       

      หากมีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน รวมถึงโรคอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารก่อนที่จะเริ่มทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

      คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ลดความอ้วน

      1. กินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก่อนนอนได้มั้ย?

      ไม่แนะนำให้กินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก่อนนอนเพราะอาจเพิ่มแคลอรี่ที่ไม่จำเป็นได้ อีกทั้งยังควรระวังปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืดหรือท้องเสีย การรับประทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นควรรับประทานในขณะที่ท้องว่าง เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอน โดยปริมาณที่แนะนำในการรับประทานคือ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน (พลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี่) หรือควรปรึกษานักกำหนดอาหาร เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนรับประทาน

      2. การทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีผลเสียอะไรบ้าง?

      แม้ว่าสรรพคุณน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจะมีมากมายแต่ก็อาจมีผลเสียที่ควรพิจารณาเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

      • ปริมาณแคลอรี่ที่สูงซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักแทนที่จะช่วยลดน้ำหนักหากทานในปริมาณที่มากเกินไป
      • ปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเสีย หรือคลื่นไส้
      • ระดับคอเลสเตอรอล แม้ว่ากรดไขมันสายกลางในน้ำมันมะพร้าวจะมีประโยชน์ แต่ก็ยังเป็นกรดไขมันอิ่มตัว การบริโภคมากเกินไปอาจส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูงหรือโรคหัวใจ

      สรุปวิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วน

      น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีประโยชน์หลายอย่างทั้งในด้านสุขภาพ ผิวพรรณ ช่องปาก รวมถึงช่วยในการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามวิธีกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนนั้นเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งในการคุมน้ำหนักเท่านั้น การลดน้ำหนักที่ถูกต้องยังจำเป็นต้องมีการคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Show Buttons
Hide Buttons